แม้ว่า บุหรี่ไฟฟ้า จะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักสูบ จากผลการวิจัยได้พิสูจน์ว่าที่จริงแล้ว บุหรี่ไฟฟ้ากลับมีว่าอันตรายไม่ต่างจากบุหรี่มวน ปัจจุบันมีการซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและแพร่หลายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน เพราะคนส่วนมากมักเข้าใจผิดว่า บุหรี่ไฟฟ้า ไม่มีอันตราย แต่ความจริงแล้ว บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายกว่าที่คิด เสี่ยงมะเร็งปอด!
บุหรี่ไฟฟ้า คืออะไร?
บุหรี่ไฟฟ้า (electronic cigarette) หรือ บุหรี่ไอน้ำ (vapor cigarette) เป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบจำพวกบุหรี่ซิก้าร์และบุหรี่แบบบกล้องยาสูบ ซึ่งทำขึ้นจากอุปกรณ์ประจุแบตเตอรี่ที่จะส่งผ่านนิโคตินไปยังผู้สูบ โดยมีลักษณะคล้ายคลึงกับยาสูบจริง โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 แบบคือ
- แบบที่คล้ายกับบุหรี่จริง
- แบบที่เรียกว่าแบบปากกา (Pen style) มีลักษณะเหมือนบุหรี่ที่มีปลายด้านก้นกรองเสียบอยู่กับตัวต่อก้นกรองอีกชั้นหนึ่ง
แต่ในปัจจุบันเริ่มมีลักษณะที่ถูกผลิตให้ไม่มีลักษณะคล้ายบุหรี่ แต่มีลักษณะคล้ายรีโมทรถยนต์ และยังมีรูปแบบที่ผู้ใช้ปรับปรุง (modify) เอง
บุหรี่ไฟฟ้า ทำงานอย่างไร?
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้กลไกไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำที่ประกอบไปด้วยสารเคมีต่าง ๆ โดยไม่มีควันจากกระบวนการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ปกติทั่วไป
โดยทั่วไป สามารถถอดแยกชิ้นส่วนได้เป็น 3 ส่วนคือ
- ส่วนแบตตเตอรี่ (Battery) คือส่วนที่มีลักษณะคล้ายกับตัวบุหรี่ มีความยาวราว 55–80 มิลลิเมตร ส่วนปลายมักมีหลอดไฟแอลอีดีแสดงสถานะการทำงาน และแจ้งเตือนระดับแบตเตอรี่ มีทั้งแบบอัตโนมัติและแบบตรวจด้วยมือ
- ส่วนตัวสร้างควัน และความร้อน (Atomizer) คือส่วนกลาง จะมีไมโครชิพ (micro ship circuit) ควบคุมการทำงาน และขดลวดอีเล็กทรอนเพื่อเปลี่ยนน้ำยา (e-liquid) ให้กลายเป็นละอองไอน้ำ และสร้างกลิ่นเสมือนบุหรี่จริง
- ส่วนเก็บน้ำยา (Cartridge) หรือส่วนปากดูด (Mouth piece) จะรูปร่างคล้ายปากเป็ด หรือทรงกระบอก และอีกด้านหนึ่งจะเป็นกระเปาะใส่วัสดุซับน้ำยาไว้

สารประกอบหลัก ๆ ใน บุหรี่ไฟฟ้า ได้แก่
- นิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งที่พบได้ในทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ปกติทั่วไป เป็นสารที่ทำให้ร่างกายเสพติดการสูบบุหรี่ โดยทั่วไปจะกำหนดระดับของสารนิโคตินในน้ำยาไว้ดังนี้
- ระดับสูงมาก (Extra High) มีระดับนิโคติน 20-24 มิลลิกรัม
- ระดับสูง (High) มีระดับนิโคติน 16-18 มิลลิกรัม
- ระดับปานกลาง (Medium) มีระดับนิโคติน 11-14 มิลลิกรัม
- ระดับต่ำ (Low) มีระดับนิโคติน 4-8 มิลลิกรัม
- ไม่มีนิโคติน (Non) มีระดับนิโคติน 0-2 มิลลิกรัม
นอกจากนี้ปัจจุบันมีบางบริษัทผลิตระดับ นิโคตินสูงสุด (Super High) คือ 34 มิลลิกรัมซึ่งอาจเกิดอันตรายหากรับในปริมาณมาก
- โพรไพลีนไกลคอล เป็นส่วนประกอบในสารสำหรับการทำให้เกิดไอ
- กลีเซอรีน เป็นสารเพิ่มความชื้นที่จะผสมผสานกับสารโพรไพลีนไกลคอลองค์การอาหารและยา (FDA) ยืนยันถึงความปลอดภัยว่าใช้ได้ทั้งในอาหารและยา แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเมื่อเปลี่ยนรูปแบบเป็นไอที่สูบหรือสูดแล้วเกิดผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย เช่นเดียวกันกับโพรไพลีนไกลคอล
- สารแต่งกลิ่นและรส เป็นสารเคมีที่ใช้กับอาหารทั่ว ๆ ไป ซึ่งมีความปลอดภัยเมื่อรับประทานเข้าสู่ร่างกาย แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเมื่อเปลี่ยนรูปแบบเป็นไอที่สูบหรือสูดแล้วเกิดผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย
บุหรี่ไฟฟ้า มีผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?
แม้บุหรี่ไฟฟ้า จะไม่มีการเผาไหม้แบบบุหรี่ทั่วไป แต่ยังคงมีสารเคมีที่เป็นอันตรายอยู่ ส่งผลเสียต่อ “ปอด” โดยตรง ทำให้ปอดอักเสบเฉียบพลัน และนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งหลายอวัยวะได้
บุหรี่ไฟฟ้า มีสารพิษอันตรายดังต่อไปนี้
- สารนิโคติน : แม้ไม่ใช่สารที่ก่อมะเร็งโดยตรง แต่เป็นสารเสพติดที่มีผลกระทบต่อระบบประสาทและพัฒนาการของสมอง “สารนิโคติน” ในบุหรี่ไฟฟ้า เสพติดง่ายกว่าที่อยู่ในบุหรี่ทั่วไปถึง 10 เท่า ทำให้ติดง่าย และเลิกยาก
- โพรพิลีนไกลคอล : เป็นสารประกอบหลักในบุหรี่ไฟฟ้า ที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และละลายน้ำได้ ช่วยให้ได้ความรู้สึกถึงการสูบบุหรี่จริง อาจทำให้เกิดอาการ คอรแห้ง ไอ ระคายเคืองลำคอ หรือแน่นหน้าอก และยังส่งผลกระทบต่อผิวหนังและดวงตาอีกด้วย
- กลีเซอรีน : มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีกลิ่น มีรสหวาน เป็นสารที่ทำให้เกิดควัน ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรง เพราะเป็นไอที่ถูกสูดดมเข้าไปในปอด ทำให้ปอดอักเสบ และระคายเคืองได้
เเละยังพบสารประกอบอีกมากมายในไอของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีข้อมูลว่าเป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น โลหะหนัก สารกลุ่ม Formaldehyde และกลุ่ม Benzene เป็นต้น จากการวิจัยยังพบว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เช่น โรคหัวใจ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ DNA ในเซลล์ปอด หัวใจ และกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง

บุหรี่ไฟฟ้า ส่งผลกระทบต่อทางเดินหายใจอย่างไร?
บุหรี่ไฟฟ้า จะทำให้การหายใจภายในเซลล์หลอดลมและถุงลมที่มีหน้าที่ดักจับเชื้อโรคก่อนลงไปถึงปอดมีประสิทธิภาพการทำงานแย่ลง ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจได้ง่ายมากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดปอดอักเสบอย่างรุนแรงทันที มีภาวะอาการหายใจลำบาก หรือล้มเหลวอย่างเฉียบพลัน (acute respiratory distress syndrome) หรือ ARDS
บุหรี่ไฟฟ้า มีปริมาณนิโคตินที่สูงในเด็กที่เป็นวัยเจริญพันธุ์ พัฒนาการด้านสมองยังโตได้ไม่เต็มที่ หากเริ่มสูบตั้งแต่อายุยังน้อยก็จะทำให้พัฒนาการของสมองลดลง ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่มวน หรือบุหรี่ไฟฟ้าก็จะส่งผลโดยตรงต่อสมองโดยตรง ส่วนของสารระเหยก็จะส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ อาจทำให้เกิดโรคภูมิแพ้เรื้อรังในอนาคตได้
ผู้เขียน: ทนพญ.ดร. อาภากร พลเทียร
เอกสารอ้างอิง
- FG China Cigarettes
- “E-Cigarette Market By Distribution Channel (Retail And Online), By Product (Modular Devices, Rechargeable, And Disposable), And By Region – Global And Regional Industry Overview, Market Intelligence, Comprehensive Analysis, Historical Data, And Forecasts 2023 – 2030”. www.zionmarketresearch.com. สืบค้นเมื่อ 2024-06-28.
- “Development of E-Cigarettes and Vaping Regulations”. nursinganswers.net. สืบค้นเมื่อ 2024-06-28.
- “Electronic cigarettes: patterns of use, health effects, use in smoking cessation and regulatory issues”. www.tobaccoinduceddiseases.org. สืบค้นเมื่อ 2024-06-28.
- Wills, Thomas A.; Soneji, Samir S.; Choi, Kelvin; Jaspers, Ilona; Tam, Elizabeth K. (10 October 2020). “E-cigarette Use and Respiratory Disorder: An Integrative Review of Converging Evidence from Epidemiological and Laboratory Studies”. European Respiratory Journal. 56 (5): 363–380.
- Albert D. Osei; Mohammadhassan Mirbolouk; Olusola A. Orimoloye; Omar Dzaye; S.M. Iftekhar Uddin; Emelia J. Benjamin; Michael E. Hall; Andrew P. DeFilippis; Aruni Bhatnagar; Shyam S. Biswal; Michael J. Blaha (January 1, 2020). “Association Between E-Cigarette Use and Chronic Obstructive Pulmonary Disease by Smoking Status: Behavioral Risk Factor Surveillance System 2016 and 2017”. American Journal of Preventive Medicine. 58 (3): 336–332.