โรค อ้วนลงพุง (Metabolic Syndrome)
หากเราปล่อยให้ “อ้วนลงพุง” จะมีโรคอะไรตามมา?
เพราะโรคอ้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ ตามมามากมาย การรู้เท่าทันโรคอ้วน ไม่ปล่อยตัวเองให้มีตัวเลขน้ำหนักพุ่งไปไกลเกินเกณฑ์จะช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆที่อาจจะเกิดตามมาได้ ดังนั้นเราจึงควบคุมน้ำหนักและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย เพื่อควบคุมปริมาณไขมัน ทั้ง ไตรกลีเซอไรด์ เเละ คลอเรสเตอรอล ให้อยู่ในระดับที่ปกติ จะช่วยให้เราห่างไกล โรคอ้วนลงพุง พร้อมมีสุขภาพดีได้ในทุกช่วงวัยของชีวิต
โรคอ้วนลงพุง หรือ เมตาบอลิกซินโดรม
โรคอ้วนลงพุง คือ ภาวะที่อ้วนโดยเฉพาะส่วนเอว ซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกายหลายระบบ เป็นภาวะที่เกิดจากร่างกายมีไขมัน(ไตรกลีเซอร์ไร)สะสมในช่องท้องที่มากเกินไป ซึ่งไขมันที่สะสมนี้จะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับ มีผลให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี เกิดเป็น “ภาวะอ้วนลงพุง” และเป็นสาเหตุของโรคเเทรกซ้อนจำพวก โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ต่างๆ (NCDs)
(อ่านบทความเกี่ยวกับ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs คลิกที่นี้)
Metabolic syndrome หมายถึงกลุ่มโรคที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารที่ผิดปกติ ทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคนี้สมัยก่อนเรียกว่า Syndrome X หรือ insulin resistance syndrome
สาเหตุของโรค อ้วนลงพุง (Metabolic syndrome)
- การรับประทานอาหารที่มีพลังงานสูง เกินความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะ กลุ่มที่เป็นเเป้ง เเละ น้ำตาล
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ไม่ออกกำลังกาย, การสูบบุหรี่
กรรมพันธุ์
- ภาวะเป็นโรค เช่น โรคต่อมไร้ท่อ หรือ กลุ่มอาการคุชชิ่ง
การบริโภคยาบางชนิด ที่มีผลเพิ่มน้ำหนักตัว เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค
- อายุ พบว่าอายุมากมีโอกาสเป็นสูง ผู้ที่มีอายุ 20พบภาวะนี้เพียง 10% คนที่อายุ 60 มีอัตราการเกิดร้อยละ 40
- เชื้อชาติ (คนผิวดำจะมีโอกาสมากกว่าปกติ)
- คนอ้วนจะมีโอกาสมากกว่าคนผอม
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัว เป็นโรคเบาหวานจะมีโอกาสสูง
- โรคอื่นๆ เช่นความดันโลหิต
วิธีวัด โรคอ้วนลงพุง เบื้องต้น
- วิธีวัดเส้นรอบเอว: ควรวัดในลักษณะท่ายืนตรง หายใจออก และควรวัดช่วงเช้าก่อนการกินอาหาร โดยผู้ชายควรมีรอบเอวไม่เกิน 90 ซม. หรือ 35.4 นิ้ว ส่วนผู้หญิงควรมีรอบเอวไม่เกิน 80 ซม. หรือ 31.5 นิ้ว
- การวัดจากดัชนีมวลกาย (BMI): เป็นวิธีที่นิยม
- [ค่าดัชนีมวลกาย = น้ำหนัก (กิโลกรัม) / ส่วนสูง (เมตร) /ส่วนสูง (เมตร)]
- ค่าดัชนีมวลกาย : มากกว่า 25 (เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนลงพุง)
เกณฑ์การวินิจฉัยโรคอ้วนลงพุง Metabolic syndrome
ผู้ชายวัดรอบเอวได้มากกว่า 90 ซม. และผู้หญิงวัดรอบเอวได้มากกว่า 80 ซม. ร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยงอีก 2 ใน 4 อย่างต่อไปนี้
- ความดันโลหิตสูง 130/85 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป.
- น้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร มากกว่า 100 mg/dl
- ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์(Triglyceride)มากกว่า 150 mg/dl
- ระดับไขมันเอชดีแอลคอเลสเตอรอล(HDL)
- สำหรับผู้ชาย HDL < 40 mg/dl
- สำหรับผู้หญิง HDL < 50 mg/dl
ผลร้ายจากอ้วนลงพุง
หากตกอยู่ในภาวะอ้วนลงพุงจะส่งผลเสียกับร่างกาย ได้แก่
โรคอ้วน ไขมันอุดตัน โรคหัวใจ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต ไขมันเกาะตับ มะเร็ง โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกาต์ โรคข้อเสื่อม หยุดหายใจตอนนอน (Sleep Apnea) โรคผิวหนัง เชื้อรา เส้นเลือดขอด
- รอบเอวเพิ่มขึ้นทุก ๆ 5 เซนติเมตร จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคเบาหวานได้มาก 3 – 5 เท่า
การป้องกันไม่ให้ อ้วนลงพุง
- การควบคุมน้ำหนัก
ควบคุมอาหาร หลีกลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูง และลดสัดส่วนอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ
รับประทานอาหารจำพวกเเป้งเเละน้ำตาลให้น้อยลง เพราะเเป้งเเละน้ำตาลเป็นภัยร้ายในการทำให้เพิ่มไขมันชนิด ไตรกลีเซอร์ไรด์
เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก หรือ ผลไม้
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที และ 3 ครั้ง/สัปดาห์
ควบคุมระดับไขมัน โดยการตรวจเช็คระดับไขมันในเลือด (Cholesterol, Triglyceride, HDL, LDL)
ดูค่าอัตราส่วน :
Triglyceride: HDL <2
LDL: HDL <3
เมื่อรู้ตัวว่าอ้วนลงพุงเเล้ว ต้องมีเป้าหมายคือ
- ควบคุมน้ำหนักตัว โดยปรับพฤติกรรมการกิน และเพิ่มการออกกำลังกาย
ลดระดับไขมัน Triglycerideและไขมันเลว (LDL) ร่วมกับ เพิ่มระดับไขมันดี (HDL)
การตระหนักรู้และดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคอ้วนคือสิ่งสำคัญ เพราะไม่ใช่แค่ตัวเลขบนตราชั่ง แต่นี่คือการที่เรามีสุขภาพดีในระยะยาว