ค่าดัชนีน้ำตาล - Glycemic Index

ค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) สำคัญอย่างไร?

ทำไม ค่าดัชนีน้ำตาล จึงสำคัญมีความสำคัญ?

อาหารที่มี ค่าดัชนีน้ำตาล สูง จะมีคาร์โบไฮเดรตสูง และส่งผลให้น้ำตาลกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งค่าดัชนีน้ำตาลในอาหาร เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาล โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและโรคเบาหวาน

ค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) คืออะไร?

ดัชนีน้ำตาล หรือ Glycemic Index (GI)  คือ ค่าที่ใช้บ่งบอกถึงความสามารถของอาหารที่ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตว่ามีผลต่อการขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดได้รวดเร็วเพียงใดภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังการบริโภคอาหารชนิดนั้น

ดัชนีน้ำตาลนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท 

  1. ดัชนีน้ำตาลต่ำ หรือ Low Glycemic Index  คือ ค่าอยู่ระหว่าง 1- 55
  2. ดัชนีน้ำตาลปานกลาง หรือ Medium Glycemic Index  คือ ค่าระหว่าง 56-69
  3. ดัชนีน้ำตาลสูง หรือ High Glycemic Index  คือ  ค่ามากกว่า 70

ปัจจัยที่ทำให้ค่าดัชนีน้ำตาลต่างกันคืออะไร

  • ชนิดอาหาร
  • ความสุกของผลไม้
  • วิธีปรุงอาหาร
  • การขัดสีของอาหาร
  • ปริมาณใยอาหาร
  • ชนิดของแป้ง

สิ่งที่สำคัญค่าการตอบสนองต่อระดับน้ำตาลในเลือดของแต่ละบุคคลนั้นมีความแตกต่างกันดังนั้นการควบคุมและเลือกอาหารควรทำไปพร้อมๆกัน

แบ่งอาหารตามค่าดัชนีน้ำตาล

 แบ่งอาหารตามค่าดัชนีน้ำตาล ได้เป็น 3 ระดับ คือ สูง กลาง และต่ำ โดยเปรียบเทียบกับการย่อยและการดูดซึมของน้ำตาลกลูโคสซึ่งมีค่า GI เท่ากับ 100 หลังรับประทานและเข้าสู่ระบบการย่อยและดูดซึมของร่างกายภายใน 2 ชั่วโมง

  • ระดับต่ำ (0 – 55) เช่น นม โยเกิร์ต นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ น้ำมันมะกอก ข้าวกล้อง สตรอว์เบอร์รี แอปเปิล ชมพู่ แก้วมังกร แครอท มะเขือเทศ ข้าวโพด บรอกโคลี ดอกกะหล่ำ มันหวานต้ม เป็นต้น
  • ระดับกลาง (56 – 69) เช่น กล้วย สับปะรด ลูกเกด น้ำส้ม น้ำผึ้ง เป็นต้น
  • ระดับสูง (70 ขึ้นไป) เช่น ข้าวขัดสี ขนมปังขาว น้ำนมข้าว แตงโม มันฝรั่ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เค้ก คุ้กกี้ ของหวาน ลูกอม และน้ำหวาน เป็นต้น
  • อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (น้อยกว่า 55) ควรเลือกบริโภค
  • อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลปานกลาง (55 – 70) เลือกบริโภคพอประมาณ
  • อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (มากกว่า 70) เลือกบริโภคแต่น้อย

วิธีลดค่าดัชนีน้ำตาล Glycemic Index

  1. เติมกากใยอาหาร:  การเติมกากใยอาหาร (Dietary Fiber) เข้าไปในอาหารที่รับประทานจะช่วยลดค่าดัชนีน้ำตาลลงได้ เช่น   พรีไบโอติก   ผักใบ   ผักก้าน  ธัญพืช   ถั่ว  เห็ด
  2. ร้อนแล้วเย็น เย็นแล้วร้อน การนำข้าวหรือเส้นแป้งต่างๆ ไปผ่านความร้อนเพื่อให้สุกแล้วนำไปแช่เย็น (ร้อนแล้วเย็น) จะทำให้โมเลกุลที่อยู่ภายในเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเป็นแป้งที่ทนทานต่อการย่อย (Resistant Starch) แล้วนำข้าวหรือแป้งนั้นกลับมาผ่านความร้อนก่อนรับประทาน (เย็นแล้วร้อน) จะทำให้ค่าดัชนีน้ำตาลลดลง

 Resistant  Starch  คือ  แป้งที่มีความทนทานต่อการย่อยด้วยระบบย่อยอาหารของมนุษย์ แต่กลับสามารถถูกย่อยได้ด้วยการหมักกับจุลินทรีย์ตัวที่ดีในลำไส้ (Probiotic / โพรไบโอติก) ซึ่งสามารถสร้างกรดไขมันสายสั้น (Short-Chain Fatty Acids) ที่มีประโยชน์มากมายกับสุขภาพโดยรวมของร่างกาย รวมถึงส่งผลดีกับสมองด้วย (Gut-Brain Axis)

แชร์บทความนี้ :

สอบถามรายละเอียด หรือ นัดหมายการตรวจ

ทีแอลซี อุดร แลบเซ็นเตอร์ (สาขา อุดรธานี)

ขอนแก่น ทีแอลซี แลบเซ็นเตอร์ (สาขา ขอนแก่น)

โกลบอล ทีแอลซี ยูดี เมดิคอลแลบ (สาขา กรุงเทพฯ)

You cannot copy content of this page