การตรวจค่า การอักเสบ เป็นการตรวจประเมินการอักเสบในร่างกาย เพื่อให้ทันต่อความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นภายในร่างกายของคุณในแบบที่จะสามารถคาดการณ์ไว้ได้ล่วงหน้า เพื่อจะได้สามารถวางแผนการป้องกัน และปรับวิธีการใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับสุขภาพในแต่ละบุคคล หรือหากตรวจพบค่าการอักเสบสูงผิดปกติ ก็จะสามารถทำการติดตาม และรักษาต่อไปได้อย่างทันท่วงที
ค่า การอักเสบ ในร่างกายมีตรวจอะไรบ้าง
- Erythrocyte sedimentation rate (ESR) คือ อัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดงใน 1 ชั่วโมง เป็นการตรวจที่บ่งบอกว่ามีการอักเสบ แต่ไม่ได้บอกสาเหตุของการอักเสบ การรายงานจะเป็น mm/h เชื่อว่าเมื่อมีการอักเสบจะมีการสร้าง fibrinogen ซึ่งจะทำให้เม็ดเลือดแดงเกาะติดกันทำให้ตกตะกอนได้เร็ว ค่า ESR เป็นการแสดงค่าไม่จำเพาะสำหรับสาเหตุการเกิดโรคและอวัยวะ แต่สามารถใช้ติดตามการรักษาโรค เช่น รูมาตอยด์ หรือ SLE
- C-reactive protein (CRP) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นจากตับ โดยปกติจะมีค่าต่ำๆในร่างกาย แต่เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้นจะมีการสร้างสาร CRP ออกมาอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นที่ 6 ชั่วโมง และสูงสุดภายใน 48 ชั่วโมง การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับความผิดปกติอย่างไม่จำเพาะ เช่น การติดเชื้อ การอักเสบของกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อต่างๆ โรคมะเร็งบางชนิด ค่า CRP จึงนำมาใช้วินิจฉัย acute rheumatic fever ประเมินสภาวะการอักเสบ การติดเชื้อ และการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ และติดตามการรักษารูมาตอยด์ แต่การตรวจ CRP เพื่อประเมินการอักเสบนั้นมีความไวค่อนข้างต่ำ ความจำเพาะ จึงมีการตรวจพัฒนาการตรวจ hs-CRP (high sensitivity-CRP) ซึ่งมีความไวและจำเพาะอย่างมากกับการพยากรณ์การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และประเมินพยาธิสภาพที่แม่นยำ
การเลือกการตรวจวัด การอักเสบ ด้วยการตรวจ CRP
- CRP ตรวจสำหรับกรณีที่มีการอักเสบปกติ จนถึงสูงประมาณ >10 mg/L. เพื่อใช้ประเมินการติดเชื้อ การอักเสบของกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อต่างๆ
- hs-CRP วัดค่าการอักเสบที่ต่ำ ๆ ประมาณ <10 mg/L. เพื่อใช้ประเมินโรคหัวใจและหลอดเลือด หัวใจ ร่วมกับค่าไขมันในเลือด
การตรวจ CRP มีข้อดีกว่า ESR คือ
- CRP จะให้ผลบวกก่อน ESR และผลกลับมาปกติขณะที่ ESR ยังสูงอยู่
- ค่า CRPไม่เปลี่ยนแปลงในภาวะซีด ระดับโกลบูลินในเลือดสูง การตั้งครรภ์, ภูมิแพ้
- ไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศชายและหญิง