Magnesium

แมกนีเซียม มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร?

แมกนีเซียม (Magnesium) คืออะไร?

แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อการทำงานของร่างกาย มีความสำคัญมากต่อการทำงานของเซลล์ต่างๆ ระบบประสาท กล้ามเนื้อ กระดูก และหัวใจ ช่วยรักษาระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติ และเสริมสร้างกระดูกที่แข็งแรง

แมกนีเซียมพบได้ทั่วไปในร่างกายของเรา ประมาณ 60% ของแมกนีเซียมจะอยู่ในกระดูก อีกประมาณ 20% อยู่ในกล้ามเนื้อ และส่วนที่เหลือพบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และของเหลวต่างๆ รวมทั้งเลือด หน้าที่คือทำหน้าที่เป็นเอนไซม์ ที่เร่งปฏิกิริยาในร่างกาย เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยามากกว่า 600 ปฏิกิริยาในร่างกาย

ทำไม แมกนีเซียม (Magnesium) จึงสำคัญ?

แมกนีเซียมมีความสำคัญมากเพราะเกี่ยวข้องกับกระบวนการพื้นฐานหลายอย่าง การขาดแมกนีเซียมอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง

แมกนีเซียม (Magnesium) มีประโยชน์อย่างไร

  • การทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท: ช่วยควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อและการส่งกระแสประสาท รวมถึงหัวใจด้วย จึงสำคัญต่อการเคลื่อนไหวและการสื่อสารระหว่างสมองกับร่างกาย
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: มีบทบาทในการควบคุมระดับน้ำตาลและความไวต่ออินซูลิน
  • ควบคุมความดันโลหิต: ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวและคลายตัว ส่งผลให้ความดันโลหิตปกติ
  • สุขภาพกระดูก: แมกนีเซียมส่วนใหญ่ในร่างกายจะอยู่ในกระดูก มีส่วนช่วยสร้างและคงความแข็งแรงของกระดูก ทำงานร่วมกับแคลเซียมและวิตามินดี
  • การสร้างพลังงาน: จำเป็นต่อการผลิตพลังงาน (ATP) ในเซลล์
  • การสังเคราะห์โปรตีน: ช่วยสร้างโปรตีน ดีเอ็นเอ และอาร์เอ็นเอ
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น
  • ส่งผลต่อการนอนหลับและอารมณ์: แมกนีเซียมช่วยควบคุมสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ และอาจช่วยลดความวิตกกังวลหรือซึมเศร้าได้
  • สุขภาพหัวใจ: รักษาจังหวะการเต้นของหัวใจให้ปกติ
  • ป้องกันไมเกรน: มีข้อมูลว่าการขาดแมกนีเซียมอาจทำให้เกิดไมเกรน และการเสริมแมกนีเซียมช่วยลดความถี่ของไมเกรนได้
  • บรรเทาอาการ Premenstrual Syndrome อาจช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือนได้
อาการขาด แมกนีเซียม - Symptoms of Magnesium Deficiency

อาการของการขาด แมกนีเซียม (Magnesium)

แม้การขาดแมกนีเซียมอย่างรุนแรงจะไม่ค่อยพบในคนที่สุขภาพดี แต่หลายคนในประเทศที่พัฒนาแล้วก็ได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอจากอาหาร อาการอาจแตกต่างกันไปตามระดับความรุนแรง เช่น

  1. ระยะแรก/อาการไม่รุนแรง: อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแรง
  2. อาการปานกลางถึงรุนแรง: ชาตามมือเท้า ตะคริว กล้ามเนื้อกระตุก ตากระตุก ชัก บุคลิกเปลี่ยน หัวใจเต้นผิดปกติ ถ้ารุนแรงมากอาจถึงขั้นหัวใจหยุดเต้นได้
  3. หากขาดแมกนีเซียมเรื้อรังนาน ๆ เสี่ยงต่อ:
    • โรคความดันโลหิตสูง
    • โรคหัวใจ
    • เบาหวานชนิดที่ 2
    • กระดูกพรุน
    • ไมเกรน

ปริมาณที่แนะนำต่อวัน

ปริมาณแมกนีเซียมที่แนะนำ (RDA) จะแตกต่างกันตามอายุ เพศ และการใช้ชีวิต(lifestyle)

  • ผู้ชายอายุ 19-51+ ปี: 400-420 มก. ต่อวัน
  • ผู้หญิงอายุ 19-51+ ปี: 310-320 มก. ต่อวัน
  • หญิงตั้งครรภ์: ประมาณ 350-360 มก. ต่อวัน
  • หญิงให้นมบุตร: 310-320 มก. ต่อวัน

อาหารที่มีแมกนีเซียมสูง:

  • ผักใบเขียว เช่น ผักโขม
  • ถั่วและธัญพืช เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์
  • ปลาทะเล
  • ดาร์กช็อกโกแลต
  • กล้วยน้ำว้า
  • โยเกิร์ต
food for magnesium

เอกสารอ้างอิง

National Institutes of Health (NIH) Office of Dietary Supplements:

(This is a comprehensive and detailed source, great for in-depth understanding.)

(A more accessible version for general public understanding.)

Mayo Clinic Laboratories / MSD Manual Consumer Version:

  • Hypomagnesemia (Low Level of Magnesium in the Blood): [msdmanuals.com]
    (Provides good information on causes and symptoms of deficiency.)

Harvard T.H. Chan School of Public Health – The Nutrition Source:

 (A reliable source for general health and nutrition information, including food sources.)

Medical News Today:

(Offers a good overview of functions, benefits, and deficiencies.)

แชร์บทความนี้ :

สอบถามรายละเอียด หรือ นัดหมายการตรวจ

ทีแอลซี อุดร แลบเซ็นเตอร์ (สาขา อุดรธานี)

ขอนแก่น ทีแอลซี แลบเซ็นเตอร์ (สาขา ขอนแก่น)

โกลบอล ทีแอลซี ยูดี เมดิคอลแลบ (สาขา กรุงเทพฯ)

You cannot copy content of this page