โรค กระดูกพรุน คืออะไร?
โรค กระดูกพรุน (Osteoporosis) คือ โรคที่ความหนาแน่นและมวลของกระดูกลดน้อยลงจนทำให้ เปราะบาง ผิดรูป และมีโอกาสแตกหักได้ง่าย ซึ่งมัใักเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น โดยมักเกิดอยู่ในช่วงวัยกลางคนถึงผู้สูงอายุ เเละในบางรายกระดูกพรุนมีผลให้ส่วนสูงลดลง เนื่องจากมวลกระดูกผุกร่อน ผลจากโรคกระดูกพรุนคือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก เนื่องจากกระดูกสามารถรับน้ำหนัก แรงกระแทก หรือแรงกดได้ลดลง
จุดเสี่ยงกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุน
บริเวณที่มักเกิดกระดูกหักจากกระดูกพรุน ได้แก่
- กระดูกสันหลัง
 - สะโพก
 - ข้อมือ
 - ต้นแขนบริเวณไหล่
 
สาเหตุโรคกระดูกพรุน
กระดูกประกอบด้วยเซลล์สร้างกระดูก (Osteoblast) ทำหน้าที่สร้างกระดูกขึ้นมาใหม่จากแคลเซียมและโปรตีนตามกระบวนการการเจริญเติบโตของร่างกายและช่วยทดแทนกระดูกส่วนที่สึกหรอ และภายในกระดูกยังมีเซลล์สลายกระดูก (Osteoclast) ทำหน้าที่สลายเนื้อกระดูกเก่า
โรคกระดูกพรุนเกิดจากการทำงานที่ไม่สมดุลกันของเซลล์กระดูกทั้ง 2 ชนิดจึงทำให้มีการสลายกระดูกมากกว่าการสร้างกระดูกเกิดขึ้น

ปัจจัยเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้น มวลกระดูกจะต้องลดลง เป็นผลให้เปราะบางและแตกหักง่ายหากถูกกระทบกระเทือนแม้ไม่รุนแรงก็ตาม
 - การลดระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจน (oestrogen) ในเพศหญิงเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ส่วนในเพศชายจะมีความเสี่ยงเกิดโรคกระดูกพรุนเมื่อมีการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) น้อยลง
 - กรรมพันธุ์ มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน
 - ความผิดปกติในการทำงานของต่อมและอวัยวะต่าง ๆ เช่น ต่อมไทรอยด์ ต่อมพาราไทรอยด์ ต่อมหมวกไต ไตและตับ
 - โรคและการเจ็บป่วย เช่น โรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคมะเร็งกระดูก
 - การบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในการสร้างกระดูก หรือกินอาหารที่ทำให้แคลเซียมเสียสมดุล
 - รับวิตามินดีไม่เพียงพอ
 - ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่
 - การใช้ยาบางชนิดที่ออกฤทธิ์เร่งการสลาย หรือรบกวนการสร้างกระดูก เช่น กลุ่มยาสเตียรอยด์
 
อาการโรคกระดูกพรุน
เนื่องจากโรคกระดูกพรุนมักไม่มีอาการเตือนใด ๆ ผู้ป่วยมักไม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรคกระดูกพรุนจนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุและนำไปสู่ภาวะกระดูกหัก และมีอาการบ่งชี้อื่น ๆ ที่ควรใส่ใจและสังเกต เพื่อจะทำให้สามารถรักษาและป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ ได้เเก่
- ปวดหลังเรื้อรัง
 - หลังค่อมหรือกระดูกสันหลังส่วนบนโค้งลง
 - ความสูงลดลง
 - กระดูกหักง่ายจากภยันตรายที่ไม่รุนแรง
 
วิธีป้องกันภาวะกระดูกพรุน
1. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี
- แคลเซียม : พบในนม โยเกิร์ต ชีส ถั่ว งา ผักใบเขียว
 - วิตามินดี : ได้จากแสงแดดอ่อน ๆ เเละสามารถรับ Vitamin D จากแสงแดดได้ 2 ช่วงเวลา ดังนี้
 - ช่วงเช้าก่อนเวลา 08.00 น.
 - ช่วงเย็นหลังเวลา 16.00 น.
- อาหารเช่น ไข่แดง ปลาแซลมอน ตับ
 
 
2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ :โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกเบา ๆ เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ เต้นแอโรบิก หรือยกน้ำหนักเบา ๆ ช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูก
3. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำลายกระดูก
- งดสูบบุหรี่
 - ลดการดื่มแอลกอฮอล์
 
4. ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
5. ระมัดระวังการใช้ยา โดยเฉพาะยากลุ่มสเตียรอยด์ที่ต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
6. ตรวจสุขภาพกระดูกเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนและผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน

การตรวจเช็คภาวะกระดูกพรุน ทางห้องปฏิบัติการ
โปรแกรมตรวจประเมินภาวะกระดูกพรุน
- Bone Marker Profile (Total P1NP, b-Cross Laps, Osteocalcin)
 - Vitamin D level
 - Parathyroid hormone
 - Calcium
 - Magnesium
 - Phosphorus
 - Alkaline phosphatase
 - IGF-1
 - SHBG
 - Oestrogen
 - Testosterone
 
				
								
								
								
								
								
								
								


