ทำไม สุขภาพจิต ที่ดีจึงสำคัญกับเราทุกคน ?
เรื่องของ mental health หรือสุขภาพจิต ปัจจุบันกลายเป็นเรื่องที่คนพูดถึงและให้ความสำคัญกันมากขึ้น ไม่ต่างไปจากการเลือกรับประทานอาหารที่ดี การออกกำลังกาย ภาวะการนอนไม่หลับหรือหลับยาก และเมื่อชีวิตประจำวันที่ต้องพบเจอกับความเครียด การใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร สมาธิไม่จดจ่อ ส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนแปรปรวน สารสื่อประสาททำงานบกพร่อง ส่งผลให้เกิดโรคจิตเวช และะสุขภาพไม่ดี หรือเจ็บป่วยตามมา
สุขภาพจิต(Mental health) คืออะไร
สุขภาพจิต (Mental health) คือ ภาวะที่จิตใจเป็นสุข สามารถปรับตัวแก้ไขปัญหา ดำเนินชีวิตประจำวันได้ มีความรู้สึกดีทั้งต่อตนเองและผู้อื่น มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ในสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่รู้สึกอึดอัดใจ (ข้อมูลจาก : World Health Organization. Retrieved 3 February 2013)
ถ้าเรามีสุขภาพจิตที่ดีเราจะรู้สึกมีความสุข มีความมั่นใจ มีความหวัง มีความพอใจในชีวิตที่เป็นอยู่ และทำให้เราอยากผูกสัมพันธ์กับผู้อื่นในการสร้างสิ่งดีๆ ให้สังคม การมีสุขภาพจิตดีเราจะมีความสงบภายในและสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความหมาย
ทำไม สุขภาพจิต ถึงสำคัญกับเรา?
สุขภาพจิตใจ มีความสำคัญไม่แพ้สุขภาพกาย เนื่องด้วยจิตและกายทำงานสัมพันธ์กัน เราไม่สามารถแยกจิตใจและร่างกายออกจากกันได้ หากสุขภาพจิตเราแย่หรือไม่ดีจะส่งผลและแสดงออกทำให้สุขภาพทางกายให้แย่ไปด้วย
สุขภาพจิตที่ดี ช่วยเราได้อย่างไร?
การมี สุขภาพจิตดี ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
- ช่วยให้เรามีความสุขุม ใจเย็น ควบคุม และสงบสติอารมณ์ได้
- เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่พอใจ และสามารถจัดการกับภาวะภายในจิตใจได้
เมื่อเกิดการสูญเสีย สามารถแก้วิกฤติจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไม่คาดคิดในชีวิตได้ สุขภาพจิตดีช่วยให้เราสามารถรับมือกับความกลัว และความไม่แน่นอนของชีวิตได้ สุขภาพจิตดีทำให้เราสามารถรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่นได้ เรียนรู้ และทำความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่นได้
สุขภาพจิตที่ไม่ดี ส่งผลอย่างไรต่อการใช้ชีวิตของเรา?
สุขภาพจิตไม่ดี ส่งผลต่อความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม และมักส่งผลต่อการทัศนคติการมองโลก และการใช้ชีวิตอยู่ในสังคม อาจนำไปสู่ความเจ็บป่วยเล็กน้อยไปจนถึงขั้นรุนแรง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ทำให้เกิดความยากลำบากในการทำภารกิจให้สำเร็จในแต่ละวัน อาจนำไปสู่ความไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่มีแรงพลังผลักดัน และไม่สามารถพึ่งตัวเองได้
- ความเจ็บป่วยทางจิตใจ ส่งผลเสียต่อการมีสุขภาพจิตดี และอาจมีความเกี่ยวโยงกับหลายปัจจัย เช่น
- ทางพันธุกรรม
- ความเครียดความวิตกกังวล
- การถูกทารุณกรรมทางร่างกาย หรือจิตใจ
- ประสบการณ์เหตุการณ์ สะเทือนใจ
ความเจ็บป่วยทางจิต สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในระยะสั้นไปจนถึงระยะยาวนานหลายปี ความเจ็บป่วยทางจิตบางอย่างที่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลายาวนานกับบุคคล และยิ่งอยู่ในระดับรุนแรง ถ้าไม่ได้รับการดูแลและะรักษาอย่างดีและะเหมาะสม
- การมี สุขภาพจิตแย่ลง และถูกปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลต่อความเจ็บป่วยเรื้อรังด้านร่างกายตามมา และการไม่ได้รับการช่วยเหลือ หรือการดูแลรักษาอย่างไม่เหมาะสมจะส่งผลให้เกิดความเจ็บป่วยบ่อยๆ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ทำให้เป็นคนไม่มีประสิทธิภาพ
สุขภาพจิต เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพในการรับมือกับความเครียด รวมถึงการรักษาสัมพันธภาพกับผู้คนที่อยู่ด้วยในสังคม สุขภาพจิตดีสำคัญกับเราทุกช่วงพัฒนาการของชีวิตตั้งแต่วัยเด็กจนเติบโตไปสู่ผู้สูงวัย
ปัญหา สุขภาพจิต ที่พบบ่อย
1. ภาวะวิตกกังวล : ความวิตกกังวลเป็นเรื่องปกติของการดำเนินชีวิต หากความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพจิต ปัญหาด้านโรควิตกกังวล ดังเช่น
- อาการหวาดวิตก (Panic attack)
- โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder)
- ภาวะปมบาดแผลทางใจ (Post-Traumatic Stress Disorder)
- ภาวะกลัว หวาดระแวง กลัวการเข้าสังคม กลัวการถูกจ้องมอง หรือการถูกตัดสินจากผู้อื่น
2. ภาวะอารมณ์บกพร่อง : มักมีอาการอารมณ์ไม่คงที่ อารมณ์ขึ้น-ลงผิดปกติ เดี๋ยวมีความสุข เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นเศร้า ยากต่อการจัดการอารมณ์ด้วยตนเอง โรคเกี่ยวกับอารมณ์บกพร่องที่เป็นมากในสังคมคือ
- ภาวะซึมเศร้า (Depression)
- ภาวะอารมณ์สองขั้ว (Bipolar Disorder)
- โรคซึมเศร้าเรื้อรัง (Dysthymic Disorder ) : อาจมีอาการไม่รุนแรง แต่เรื้อรังยาวนานเป็นปี
3. ภาวะผิดปกติทางจิต (Psychotic Disorders) : ภาวะทางจิตผิดปกติ หากเข้าสู่ขั้นรุนแรง ทำให้เกิดความคิดที่บิดเบือน ไม่สามารถแยกแยะ หรือรับรู้สิ่งที่เป็นจริง หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมจะส่งผลให้เกิดอาการแย่ลง เช่น
- เห็นภาพหลอน
- หูแว่ว
- ประสาทสัมผัสผิดเพี้ยน ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง เกิดการตัดขาดจากโลกความเป็นจริง และมีความคิดที่หลงไปในทางผิดปกติ ความคิดแปลกประหลาด และอาจส่งผลอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น
โรคทาง Psychotic disorder ควรได้รับการรักษาด้วยยาควบคู่กับการทำจิตบำบัด ได้แก่ โรคจิตหลงผิด (Schizophrenia หรือ Delusional Disorder)
สาเหตุของ ภาวะจิตเภท มีหลากหลายประการ เช่น
- ระบบการทำงานของสมองผิดปกติ
- สมองได้รับสารพิษสะสม
- เจ็บป่วยด้วยโรคทางระบบประสาท(สมอง) ทำให้เห็นภาพหลอน ภาพลวงตา หูแว่วได้
- การถูกทำร้าย การถูกทารุณกรรมทางร่างกาย และจิตใจจนเกิดเป็นปมบาดแผลทางใจ (Trauma) ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะทางจิตเภทได้
- การใช้ยากระตุ้น หรือสารเสพติด แอลกอฮอล์
อาการถอนยาจากการรักษาโรคทางจิตเภทแบบกะทันหัน ก็มีส่วนทำให้การทำงานของระบบสมองรวน ส่งผลต่ออารมณ์ที่แปรปรวนได้
4. ความผิดปกติเกี่ยวกับการกิน (Eating Disorders) : เป็นความเจ็บป่วยที่มาจากจิตใจ ความผิดปกตินี้จากภายนอกดูเหมือนเป็นประเด็นที่เน้นไปที่อาหาร แต่แท้จริงแล้วเกิดจากปัญหาฝังลึกในใจ เกี่ยวกับการถูกบังคับควบคุมในรูปแบบต่างๆ
5. โรคบุคลิกภาพบกพร่อง (Personality Disorders) : เป็นปัญหาทางด้านสุขภาพจิตผิดปกติ ในเรื่องความคิด พฤติกรรม การดำเนินชีวิต การรักษาควรทำจิตบำบัดเพื่อช่วยปรับเปลี่ยนกระบวนการทางความคิด ทัศนคติ และพฤติกรรมที่เป็นปัญหา
ลักษณะที่มักพบเห็นส่วนใหญ่คือ จะมีอาการของโรคที่เกี่ยวข้องกับ
- อารมณ์หงุดหงิด
- โมโหร้าย ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
- อารมณ์ไม่มั่นคง
- พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
- มีบุคลิกภาพชอบบังคับควบคุมคนอื่น
- มีพฤติกรรมต่อต้านสังคม หรือเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับโรคหลาย
- บุคคลิกภาพที่มักแยกออกจากตัวตนที่เป็นอยู่จริง หรือสร้างตัวตนอื่นๆ
โรคบุคลิกภาพบกพร่องที่มักพบบ่อย เช่น Borderline, Narcissistic, Antisocial, Dissociative เป็นต้น
เสริมสร้างสุขภาพจิตดีทำอย่างไร
- ฝึกตนเองให้มองโลกในความเป็นจริง มีเหตุผล และฝึกคิดในแง่บวก ประโยชน์มากกว่าแง่ลบ ช่วยให้คุณไม่เกิดความวิตกกังวลมากจนเกินไป
- ดูแลจิตใจตัวเองให้สงบและผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การฝึกฝนจิตใจให้สงบ และอยู่กับปัจจุบัน รวมทั้งรู้ทันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวเราเองอยู่เสมอ
- ไม่ตั้งความหวังมากจนเกินไป ซ้อมรับมือกับความผิดหวัง หากตนเองต้องเผชิญในสถานการณ์จำเป็น
- สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์เช่นไร
- มีความเข้าใจในตนเองและผู้อื่นเป็นอย่างดี
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 วัน/สัปดาห์ ครั้งละ 30-60 นาที เพื่อช่วยเพิ่มการทำงานของสารสื่อประสาทไม่ให้บกพร่อง
- รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ไม่ให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดสารอาหาร ที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง เช่น Magnesium, Vitamin B, เสริมโพรไบโอติกส์ที่ดีต่อลำไส้ จากนมเปรี้ยว โยเกิร์ต ช่วยปรับสมดุลลำไส้ จากเชื้อรา ยีสต์ แบคทีเรีย ที่หากสะสมมากๆ เชื้อเหล่านี้จะส่งผลให้ร่างกายเครียด, ไม่นอนดึก นอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ
- พักผ่อนอย่างเพียงพอ 6-8 ชั่วโมง ต่อวัน เพื่อช่วยเสริมสร้างกระบวนการฟื้นฟูขณะนอนหลับ ลดภาวะการทำงานของฮอร์โมนบกพร่อง
อ้างอิง
- “Mental health: strengthening our response”. World Health Organization. August 2014. สืบค้นเมื่อ 4 May 2014.
- Edmonds, David Matthew; Zayts-Spence, Olga; Fortune, Zoë; Chan, Angus; Chou, Jason Shang Guan (2024-03-04). “A scoping review to map the research on the mental health of students and graduates during their university-to-work transitions”. BMJ Open (ภาษาอังกฤษ). 14 (3): e076729. doi:10.1136/bmjopen-2023-076729. ISSN 2044-6055.
- who.int [Mental health]
- healthdirect.gov.au [mental-illness]
- quebec.ca [psychotic-disorders]