โดยปกติแล้วร่างกายของเราจะสูญเสียน้ำประมาณวันละ 2.5 ลิตรผ่านทางเหงื่อ ลมหายใจและการขับถ่าย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ร่างกายสูญเสียน้ำในปริมาณมากเกินไป ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะร่างกาย “ขาดน้ำ” ได้ และส่วนใหญ่การใช้ชีวิตในการทำงานแต่ละวัน เรามักจะใช้เวลาเกือบทั้งหมดกับการทำงาน จนลืมความสำคัญกับการดูแลลตัวเอง ดังเช่น การดื่มน้ำ
ภาวะร่างกาย ขาดน้ำ คืออะไร?
ภาวะ ขาดน้ำ (Dehydration) คือ ภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าที่ได้รับ จึงมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอจนส่งผลต่อระบบไหลเวียนของเหลวและการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ ไต สมอง ทางเดินอาหาร กล้ามเนื้อ และหากปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำมากเกินไปเป็นเวลานาน อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
สาเหตุของการ ขาดน้ำ
- การดื่มน้ำน้อยเกินไป หรือ ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ที่เกิดจากการเสียเหงื่อหลังออกกำลังกายอย่างหนัก
- การสูญเสียน้ำในร่างกาย มากกว่าปกติในหน้าร้อนที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงมากจนทำให้เป็นโรคลมแดด หน้ามืด วิงเวียนศรีษะ และเป็นลมได้
- อาเจียน ท้องเสีย
- หรือแม้แต่การใช้ยาบางชนิด
- เด็กทารกและผู้สูงอายุจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดน้ำได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีปริมาณน้ำไม่มาก
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ ได้แก่ โรคไต โรคเบาหวาน
อาการ ขาดน้ำ จะเป็นอย่างไร?
อาการของผู้ที่มีภาวะร่างกายขาดน้ำจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของภาวะ
อาการเบื้องต้นที่มีความรุนแรงระดับปานกลาง
- กระหายน้ำ
- อ่อนเพลีย / เหนื่อยง่าย
- เหงื่ออกน้อย
- ปวดศรีษะ / วิงเวียนศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน
- ปัสสาวะน้อย 4-6 ชั่วโมง / 1 ครั้ง
- ชีพจรเต้นเร็ว หายใจ หอบถี่
- ความดันโลหิตต่ำ บางรายอาการรุนแรง จนเกิดอาการชักได้
- อาการที่ขาดน้ำรุนแรงและเป็นอันตราย (หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด)
- กระหายน้ำอย่างรุนแรง
- ปัสสาวะน้อยและมีสีเข้ม หรือ ไม่มีปัสสาวะ
- อ่อนเพลีย
- มีไข้
- หัวใจเต้นแรงและเร็ว หายใจหอบและถี่
- ช็อก หมดสติ
ดูแลตัวเองอย่างไร? เมื่อร่างกาย ขาดน้ำ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย 4-8 แก้ว ต่อวัน (แก้วน้ำขนาด 200มล.)หรือ 1.5-2.0 ลิตรต่อวัน
- ในกรณีที่ร่างกายขาดน้ำ เนื่องจากอาการท้องเสีย นอกจากดื่มน้ำแล้ว ควรดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อลดอาการอ่อนเพลีย จากการสูญเสียน้ำในร่างกายไปด้วย
- หลีกเลี่ยงสถานที่อบอ้าว ควรหาจุดที่อากาศถ่ายเท ร่มรื่น เพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย
แม้ว่าในร่างกายของคนเราจะประกอบด้วย “น้ำ” ถึง 60% ของน้ำหนักตัว แต่ในทุกๆ วันร่างกายก็สูญเสียน้ำออกไปมากเช่นกัน ฉะนั้นเราควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อชดเชยน้ำที่เสียไป เพราะหากเราดื่มน้ำไม่มากพอจะส่งผลให้ร่างกายต้องตกอยู่ใน “ภาวะขาดน้ำ” อย่างแน่นอน
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ…เพื่อหาสาเหตุ
- การตรวจปัสสาวะ((Urinalysis)เช่น สีของปัสสาวะ การตรวจพบคีโตน(Ketone)ในปัสสาวะ
- การตรวจเลือด((Blood Test)
- ปริมาณน้ำตาลในเลือด(Blood sugar)
- ปริมาณกรดยูริก(Uric acid)
- ปริมาณโซเดียม(Sodium) และ โพแทสเซียม (Potassium) ในเลือด
- ตรวจความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง(CBC)