มาทำความรู้จัก โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heatstroke)
โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heatstroke) เป็นสภาวะทางการเเพทย์ที่รุนแรง ที่เกิดขึ้นเมื่อระบบการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายเกิดความล้มเหลว ส่งผลทำให้อุณหภูมิของร่างกายมีความร้อนสูง (มากกว่ากว่าหรือเท่ากับ 40 องศาเซลเซียส หรือ 104 ฟาเรนไฮต์) จนเป็นอันตรายได้ ถือเป็นสาเหตุฉุกเฉินทางการเเพทย์เเละต้องได้รับการดูเเลทันทีเพื่อป้องกันภาวะเเทรกซ้อนที่ร้ายแรงหรือการเสียชีวิต มักจะเกิดขึ้นจากการสัมผัสกับอุณหภูมิสูงเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อมีสภาวะที่กระหายน้ำร่วมด้วยเเละการออกกำลังกายอย่างหนัก
ภาวะ ฮีทสโตรก (Heatstroke) อาจทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะสำคัญ เช่น สมอง หัวใจ ปอด ไต และกล้ามเนื้อได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอย่างทันท่วงที เเละ ผู้ป่วยจะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย โดยบางรายถึงขั้นพิการและเสียชีวิตได้
ประเภทของ ฮีทสโตรก (Heatstroke)
ฮีทสโตรก (Heatstroke) เกิดขึ้นแบ่งเป็น 2 ประเภท
- โรคลมแดด ที่ไม่ได้เกิดจากการใช้กำลังกายหนัก (classical heatstroke or non-exertional heatstroke: NEHS) : การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น โรคลมแดดแบบคลาสสิกหรือแบบไม่ต้องออกแรงมักเกิดขึ้นหลังจากสัมผัสกับสภาพอากาศที่ร้อนและชื้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเวลานาน
- . ฮีทสโตรกจากภายนอก (Exertional heatstroke) :โรคลมแดดที่เกิดจากการออกแรงนั้นเกิดจากกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมากหรือการออกกำลังกายอย่างหนักในสภาพอากาศร้อน ส่งผลให้อุณหภูมิแกนกลางของร่างกายเพิ่มขึ้น
สาเหตุของ โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heatstroke)
โรคลมเเดด หรือ ฮีทสโตรก จะเกิดขึ้นเมื่อกลไกการควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกายทำงานมากเกินไป ทำให้ความร้อนเพิ่มขึ้นในร่างกายอย่างรวดเร็ว เเละมีหลายปัจจัยร่วมที่สามารถทำให้เกิดฮีทสโตรกขึ้น ได้เเก่
- อากาศร้อนมาก :การสัมผัสกับอากาศร้อนจัด โดยเฉพาะในช่วงที่มีคลื่นความร้อนหรือในสภาวะเเวดล้อมที่มีอากาศร้อนเเละความชื้น ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคลมเเดด
- ภาวะขาดน้ำ เกิดจากการดื่มน้ำน้อยหรือมีเหงื่ออกมากเกินไป หากร่างกายไม่ได้รับน้ำกลับคืนสู่ร่างกายอย่างเหมาะสมเเล้ว จะทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ จะทำให้คนนั้นมีโอกาศเกิดภาวะฮีทสโตรกได้ง่ายขึ้น
- การออกกำลังกาย ด้วยการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมากโดยเฉพาะการออกกำลังกายในสภาวะที่ร้อนจัด ทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคลมเเดดมากขึ้น
ยาบางชนิด เช่น ยาเเก้เเพ้ (antihistamines), ยาขับปัสสาวะ(diuretics) เเละ beta-blockers ซึ่งอาจทำให้ความสามารถของร่างกายในการควบคุมอุณหภูมิลดลงหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการขาดน้ำทำให้คนไทยนั้นมีแนวโน้มที่จะเจ็บป่วยจากภาวะอากาศร้อนได้ง่ายขึ้นเหมือนเป็นโรคลมเเดด
สัญญาณเตือน โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heatstroke) ที่ควรระวัง
- ตัวร้อนมาก อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
- ผิวหนังแห้งและร้อน ตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีเหงื่อออก
- ความดันโลหิตลดลง
- หัวใจเต้นเร็วมาก ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว
- กระหายน้ำมาก
- วิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง หน้ามืด
- คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย
- อาจถึงขั้นชักกระตุก เกร็ง และหมดสติไป
วิธีป้องกันตัวเอง โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heatstroke)
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด
- สวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน โปร่ง ไม่หนา น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดีและป้องกันแสงแดดได้
- จิบน้ำบ่อยๆ อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน ถึงแม้ไม่กระหายน้ำก็ตาม เพื่อเติมความชุ่มชื้นและลดอุณหภูมิร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา รวมถึงกาแฟ และเครื่องดื่มน้ำตาลสูง
- สำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย แนะนำออกกำลังกายในที่ที่อากาศถ่ายเท ควรเลือกในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนมาก และควรมีการอบอุ่นร่างกายก่อนทุกครั้ง
- สวมแว่นกันแดด สวมหมวกปีกกว้าง
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวหากมีอาการผิดปกติ หรืออาการที่บ่งบอกตามข้างต้น ขอให้รีบพบแพทย์โดยทันที
การรักษา โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heatstroke)
- เคลื่อนย้ายผู้ป่วยอยู่ในที่ร่มหรือในที่มีอากาศถ่ายเทเเละมีเครื่องปรับอากาศ
- ให้ดื่มน้ำเย็นหรือน้ำเเร่ ในกรณีที่ผู้ป่วยรู้สึกตัว
- ถอดเสื้อผ้าส่วนเกินหรือคับออก
- ทำให้ผู้ป่วยมีอุณหภูมิเย็นลง เช่น วางถุงน้ำแข็งหรือผ้าเย็นที่เปียกบนศีรษะ คอ รักแร้ และขาหนีบ วางผู้ป่วยในอ่างน้ำเย็นหรือฝักบัวเย็น แล้วฉีดน้ำขณะรอรถพยาบาล